Search Tire

Categories of Tires


Statistic
 วันนี้
166 คน
 เมื่อวาน
601 คน
 เดือนนี้
994 คน
 เดือนที่แล้ว
12,970 คน
 ปีนี้
57,067 คน
 ปีที่แล้ว
188,292 คน
บทความทั้งหมด


วิธีการดูแลรักษาสีรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน อย่างง่ายๆ

ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำๆ.....ใช่แล้วครับ หน้าฝนแบบนี้หลายท่านคงไม่ปลื้มซักเท่าไหร่ เพราะไปไหนมาไหนไม่สะดวก แต่ถ้าท่านใดที่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าโชคดีหน่อย เพราะการเดินทางก็สะดวกขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นท่านที่มีรถก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝนแล้ว บางท่านเพิ่งล้างรถเสร็จฝนก็ตกทันที สร้างความหงุดหงิดยิ่งนัก ทำให้รถคันโปรดเลอะเทอะเปรอะเปื้อน จนบางครั้งหลายๆท่านต่างพูดตรงกันได้เลยว่า “หน้าฝนจะล้างรถทำไมให้เสียเวลา” แต่เรามีบทความดีๆมาแนะนำสำหรับ ช่วงหน้าฝนที่กำลังจะถึง ควรดูแลรักษารถของท่านอย่างไร ให้คงสภาพที่ดีอยู่เสมอ และยืดอายุความสวยงามของรถคันโปรดของท่านให้อยู่คู่กับท่านไปอีกนานแสนนาน

สําหรับผู้ใช้รถมีความเชื่อผิดๆที่คิดว่าหน้าฝนล้างรถไปก็เท่านั้น เสียดายเงิน เสียเวลา เพราะล้างรถเสร็จแล้วเดี๋ยวฝนก็ตก เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเหมือนเดิม เลยตัดสินใจใช้งานรถไปเรื่อยๆแบบไม่ล้าง ปล่อยให้ รถเลอะเขรอะเป็นคราบเป็นระยะเวลานาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด ซึ่งมันจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพผิวของรถคันงามของคุณเลยทีเดียว

เปรียบเทียบง่ายๆ เมื่อเราออกกําลังกายเสร็จแล้ว ทั้งเหงื่อไคล คราบสกปรกต่างๆ เรายังต้องชําระล้างอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดหมดจด รถก็เช่นกัน เมื่อเราขับรถลุยน้ำ ลุยฝนจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนทั้งคัน ยิ่งเป็นน้ำฝนในกรุงเทพฯ อย่างที่เรารู้ๆกัน โรงงานอุตสาหกรรมเยอะแยะเต็มไปหมด มลพิษต่างๆมากมาย หรือแม้แต่ภูมิภาคอื่นๆ ก็เช่นกัน น้ำฝนย่อมมีฤทธิ์เป็นกรด กัดกร่อนสีรถของท่านให้หม่นหมอง ไม่เงางามได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรทําก็คือการล้างทําความสะอาดรถให้อยู่ในสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ หากคุณไม่มีเวลาล้างแบบเต็มขั้นตอน เราแนะนำให้ใช้สายยางฉีดไล่คราบน้ําฝน คราบสกปรก และหาผ้าสะอาดๆ เช็ดให้หมดจดก็ช่วยรักษาสภาพรถได้อย่างง่ายๆเช่นกัน แต่หากคุณอยากให้สีรถสวยเงางามอยู่เสมอ การล้างทำความสะอาดแบบครบขั้นตอนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และอาจเสริมด้วยการใช้วิธีขัดเคลือบสีรถ  ซึ่งจะช่วยขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นได้


วิธีการดูแลรักษาสีรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน อย่างง่ายๆ


1. หมั่นล้างรถอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังขับรถลุยฝน เพื่อช่วยไม่ให้เกิดคราบฝังแน่น แต่ถ้าหากไม่มีเวลามากนัก แนะนำให้ใช้สายยางฉีดไล่โคลน และคราบน้ำฝนออก ก็ช่วยบรรเทาการเกิดคราบฝังแน่นได้บ้าง

2. เมื่อเราขับรถลุยฝนมาแล้ว พยายามอย่าจอดรถตากแดด เพราะจะทำให้คราบน้ำฝนแห้ง และเป็นคราบน้ำ ยิ่งถ้าเจอฝนกรดด้วยแล้ว คราบน้ำนั้นจะฝังตัวแน่น และอาจกัดลึกลงถึงเนื้อสีได้ครับ ซึ่งถ้าเป็นคราบน้ำแล้วล้างไม่ออก ให้รีบนำรถทำการขัดเคลือบสีโดยด่วน อย่าทิ้งไว้นาน เพราะจะยิ่งทำให้คราบนั้นฝงแน่นและสร้างความเสียหายแก่รถของท่านในที่สุด

3. ไม่ควรนำผ้าแห้งเช็ดรถหลังฝนตกในทันที เพราะฝุ่นและโคลนที่ติดตามตัวรถ เมื่อเราเอาผ้าเช็ดทันทีอาจเป็นสาเหตุให้รถเกิดรอยได้ ดังนั้นจึงควรฉีดน้ำล้างให้ทั่วตัวรถก่อนเช็ดด้วยผ้าจึงจะดีที่สุด

4. ไม่ควรล้างรถเองในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ เพราะในเวลาค่ำอาจะทำให้เราเช็ดคราบน้ำที่ตกค้างอยู่ตามซอก ตะเข็บรถไม่สะอาด เป็นสาเหตุที่ทำให้รถเป็นสนิมได้


5. ในช่วงหน้าฝน ไม่ควรจอดรถใต้ร่มไม้ที่มียาง เกสร ดอก หรือผล เพราะในฤดูฝน มักมีลมกรรโชกที่รุนแรง นอกจากต้นไม้จะหักหรือล้มมาโดนรถแล้ว สิ่งดังกล่าวอาจจะปลิวมาติดรถ และทำให้ผิวสีด่างและเสียได้ หากเราไม่แก้ไขให้ทันท่วงที


6. หากมีเวลาว่าง แนะนำให้เคลือบสีรถไว้ด้วย การเคลือบสีนั้น นอกจากจะทำให้รถเราสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันคราบน้ำจากฝนกรดด้วยนะครับ ถ้าเราเคลือบสีบ่อยๆ น้ำจะไม่เกาะที่ตัวรถ จะทำให้ลดการเกิดคราบน้ำ และยังจะช่วยให้เราล้างรถได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเราไม่เคลือบสีเลย โอกาสเกิดคราบน้ำก็มีสูง คราบสกปรกก็จะฝังตัวได้ง่าย ทำให้เราล้างรถลำบาก
การดูแลรถหน้าฝน,ล้างรถหน้าฝนให้ถูกวิธี,การล้างฝนหน้าฝนก็สำคัญ
<<ก่อนหน้า ถัดไป>>
Facebook Twitter Google Digg Reddit LinkedIn Pinterest StumbleUpon Email